Wednesday, September 4, 2013

“KitKat” android new version


Android is the operating system that powers over 1 billion smartphones and tablets. Since these devices make our lives so sweet, each Android version is named after a dessert: Cupcake, Donut, Eclair, Froyo, Gingerbread, Honeycomb, Ice Cream Sandwich, and Jelly Bean. As everybody finds it difficult to stay away from chocolate we decided to name the next version of Android after one of our favorite chocolate treats, Kitkat®!

กูเกิล(Google)เผยชื่อระบบแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่”KitKat” หลังซุ่มเงียบมาพักใหญ่ พร้อมตั้งหุ่นช็อกโกแลตยักษ์หน้าตึกที่ทำการตามธรรมเนียม ระบุชัดความร่วมมือครั้งนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงเป็นความสมัครใจร่วมของทั้ง 2 บริษัท ด้านเนสท์เล่เจ้าของแบรนด์ KitKat เล่นด้วยทำเว็บเฉพาะกิจพร้อมออกช็อกโกแลตเวอร์ชันใหม่ “KitKat 4.4" วางขายใน 19 ประเทศทั่วโลกเช่นกัน
      
       ชื่อระบบแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ล่าสุดเปิดเผยอย่างเป็นทางการหลังจากมีหุ่น”KitKat” ตั้งตระหง่านอยู่หน้าตึกที่ทำการกูเกิล พร้อมข้อความบนโซเชียลมีเดียจากผู้บริหารกูเกิลประหนึ่งว่าเจ้าสิ่งนี้จะนำพาไปสู่การใช้งานแอนดรอยด์ที่มากกว่า 1 พันล้านเครื่องในอนาคต ด้วยภาพประกอบซึ่งก็คือหุ่นช็อกโกแลตยักษ์ที่ทุกคนรู้จักกันดีในนามว่า “KitKat”

 ก่อนหน้านี้ชื่อที่คาดว่าจะเป็นเวอร์ชันใหม่ของแอนดรอยด์เวอร์ชัน 4.4 นี้ได้ถูกเรียกกันภายในองค์กรว่า Key Lime Pie ซึ่งเป็นชื่อขนมพายชนิดหนึ่งที่มีรสชาดของมะนาวเป็นส่วนประกอบ แต่ด้วยเหตุผลของความนิยมที่ไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง การเสนอชื่อ KitKat เพื่อเปลี่ยนชื่อจึงเริ่มขึ้นโดยการติดต่อทางเนสท์เล่และก็ได้รับการตอบรับให้ใช้ชื่อนี้ได้ในเวลาต่อมา แต่กระนั้นเพื่อเป็นการปกปิดข่าวการเปลี่ยนชื่อดังกล่าวทั้ง 2 บริษัทยังคงต้องทำงานอย่างเงียบเพื่อป้องกันข่าวรั่วไหล แม้แต่เอกสารภายในก็ยังคงใช้ชื่อ Key Lime Pie เป็นชื่อเรียกแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่นี้ และพนักงานกูเกิลส่วนใหญ่เพิ่งรู้ว่าแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่จะมีชื่อว่า “KitKat”ก็เมื่อเห็นว่ามีหุ่นมาตั้งที่หน้าตึกนั่นเอง
      
       ทั้งนี้ลำดับชื่อของแอนดรอยด์ในเวอร์ชันที่ผ่านมาล้วนเป็นชื่อขนมหวานแทบทั้งสิ้น โดยมีทั้ง Cupcake, Donut, Eclair, Froyo, Gingerbread, Honeycomb, Ice Cream Sandwich และล่าสุด Jelly Bean การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้ยังได้รับการยืนยันจากผู้บริหารระดับสูงของทางกูเกิลว่าไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เป็นเพราะชื่อเรียกที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีเป็นสาเหตุและสาระสำคัญของการเปลี่ยนชื่อมาใช้ “KitKat” ขณะที่ผู้บริหารด้านการตลาดเนสท์เล่ Patrice Bula กล่าวติดตลกว่า การตัดสินใจครั้งนี้หากแอนดรอยด์ 4.4 ”KitKat” มีมัลแวร์หรือแครชบ่อยจนทำให้เสียชื่อไปถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ KitKat ตัวเขาเองก็อาจจะโดนไล่ออกก็เป็นได้

No comments:

Post a Comment

Popular Posts